TH | EN


วันที่เพิ่มข้อมูล : 15 june 2559
มีผู้เข้าชมทั้งหมด : 589 ครั้ง

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท  จะต้องดำเนินการตามลำดับขั้นตอน ดังนี้
   (1) ต้องมีผู้เริ่มก่อการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เข้าชื่อกันทำหนังสือบริคณห์สนธิขึ้น แล้วไปจดทะเบียน
   (2) เมื่อได้จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว ผู้เริ่มก่อการต้องจัดให้หุ้นของบริษัทที่จะตั้งขึ้นนั้นมีผู้เข้าชื่อจองซื้อหุ้นจนครบ
   (3) ดำเนินการประชุมตั้งบริษัท โดยต้องส่งคำบอกกล่าวนัดประชุมให้ผู้จองทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันประชุม
   (4) เมื่อได้ประชุมตั้งบริษัท และที่ประชุมได้แต่งตั้งกรรมการบริษัทแล้ว ผู้เริ่มก่อการต้องมอบหมายกิจการให้กรรมการบริษัทรับไปดำเนินการต่อไป
   (5) กรรมการบริษัทเรียกให้ผู้เริ่มก่อการและผู้จองหุ้นชำระค่าหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น (ทุนของบริษัทจะแบ่งเป็นกี่หุ้นก็ได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5 บาท)
   (6) เมื่อได้รับเงินค่าหุ้นแล้ว กรรมการต้องไปจดทะเบียนเป็นบริษัทภายใน 3 เดือน ภายหลังจากการประชุมตั้งบริษัท

 

 

คำแนะนำในการจองชื่อนิติบุคคล
   - การขอจองชื่อนิติบุคคลจะต้องเป็นภาษาไทยและให้ระบุภาษาต่างประเทศเป็นอักษรโรมันด้วยทุกครั้ง
   - แบบขอจองชื่อนิติบุคคลที่นายทะเบียนอนุญาตให้จองชื่อได้แล้ว ต้องยื่นจดทะเบียนภายใน 30 วันนับแต่วันที่นายทะเบียนมีคำสั่งอนุญาต
 

 

  • คำขอ : แบบ บอจ.1 , หน้าหนังสือรับรอง (ในการ Print-out หนังสือรับรอง ให้อยู่ด้านหลังของหน้าแบบ บอจ. 1)
  • รายการ : แบบ บอจ.2 (ใช้ทั้งสองหน้า)
  • เอกสารประกอบรายการ : แบบ ว.
  • เอกสารประกอบ
    1. แบบจองชื่อนิติบุคคล
    2. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้เริ่มก่อการที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน
    3. สำเนาบัตรทนายความหรือหลักฐานการเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภาของผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
    4. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี

 

  • คำขอ : แบบ บอจ.1 , หน้าหนังสือรับรอง (ในการ Print-out หนังสือรับรอง ให้อยู่ด้านหลังของหน้าแบบ บอจ. 1)
  • รายการ : แบบ บอจ.3 (ใช้ทั้ง 2หน้า)
  • เอกสารประกอบรายการ : แบบ ก.
  • เอกสารประกอบ
    1. แบบ บอจ.5
    2. สำเนาหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
    3. สำเนารายงานการประชุมตั้งบริษัท
    4. สำเนาข้อบังคับ (ถ้ามี)
    5. หลักฐานการชำระค่าหุ้นของบริษัทอย่างใด อย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ 
      (1) เอกสารที่ทางธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของบริษัท หรือ 
      (2) ใบสำคัญแสดงการชำระค่าหุ้นของบริษัท หรือ 
      (3) หนังสือยืนยันการชำระค่าหุ้นและการเก็บรักษาค่าหุ้นของบริษัท
    6. หนังสือบริคณห์สนธิฉบับตีพิมพ์ จำนวน 2 ฉบับ (ภูมิภาคใช้ 3 ฉบับ)
    7. ข้อบังคับฉบับตีพิมพ์ จำนวน (ภูมิภาคใช้ 3 ฉบับ)
    8. สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน
    9. สำเนาบัตรทนายความหรือหลักฐานการเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภาของผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
    10. แบบ สสช. 1 จำนวน 2 ฉบับ (ภูมิภาคใช้ 3 ฉบับ)
    11. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี